วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การอ่าน TAB เพื่อจะ solo

เพื่อนๆ คงจะเคยเห็น TAB กีต้าร์กันมาบ้างแล้วนะครับ TAB กีต้าร์เป็นสื่อการเรียนที่เป็นสากลและแพร่หลาย เพราะเข้าใจง่าย อ่านได้เร็วกว่าการดูโน๊ตบรรทัด 5 เส้น โดยผู้อ่านไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางทฤษฎีดนตรีก็สามารถเข้าใจได้ ส่วนใครที่ยังไม่เคยอ่าน TAB มาก่อน ลองทำความเข้าใจดูนะครับ
จากรูป เป็นรูปของ Tab กีต้าร์ครับ จะเห็นว่าเป็นเส้นตรง 6 เส้น ด้านซ้ายสุดจะเขียนว่า TAB ไว้เป็นสัญลักษณ์ ทั้ง 6 เส้น จะแทนสายกีต้าร์ทั้ง 6 สาย โดยเส้นบนสุด แทนสายกีต้าร์สายที่ 1 ไล่ลงไปเรื่อยๆ จนถึงเส้นที่อยู่ล่างสุด จะแทนสายกีต้าร์สายที่ 6 ครับ ตัวเลขที่อยู่บน TAB แสดงถึงเฟรทที่เราจะต้องกดว่าอยู่เฟรทใด และบนสายใด ตัวอย่างเช่น เลข 7 บน เส้นที่ 3 หมายถึงเราจะต้องกดนิ้วที่เฟรทที่ 7 บนสายกีต้าร์สายที่ 3 นั่นเองครับ
"เลข 0" หมายถึง ดีดสายเปล่า
ลองหยิบกีต้าร์ขึ้นมาแล้ววางนิ้วตาม TAB ด้านบนดูซิครับ ........
จะสังเกตุได้ว่าการเล่นตาม Tab ด้านบน จะเป็นการดีดพร้อมกันทั้งหมด (ทั้ง 6 สาย) ในลักษณะของการจับคอร์ดนั่นเอง
คุ้นๆมั้ยครับ สำหรับผู้ที่เคยเล่นกีต้าร์ตีคอร์ดมาบ้างแล้วคงร้องอ๋อ... เพราะความจริงมันก็คือ "คอร์ด Emaj" หรือ เรียกสั้นๆว่า "คอร์ด E" นั่นเอง โดยถ้าเป็นสัญลักษณ์การจับคอร์ดก็จะเป็นรูปดังนี้ครับ
Guitar chords: E
ในรูปแบบของ TAB แล้ว โดยปกติจะไม่มีการบอกนิ้วที่กดในแต่ละสายว่าจะต้องใช้นิ้วใด อ้าว! แล้วอย่างงี้จะรู้ได้อย่างไรล่ะครับ.... อันที่จริงแล้วลักษณะการวางนิ้ว มักจะเป็นไปโดยธรรมชาติ และคำนึงถึงความต่อเนื่องในการเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถฝึกเองได้ไม่อยากครับ
พอเข้าใจกันบ้างแล้วใช่มั้ยครับ แต่ทั้งนี้ ยังมีสัญลักษณ์อื่นๆอีกที่แสดงบน TAB ตามตารางดังนี้ ซึ่ง โดยทั่วไปแล้วเทคนิคที่พบบ่อยๆคือ h (hammer on), p (pull off), / (slide up), \ (slide down), v (vibrato) ครับ

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การเล่น power cord

  การจับ power chord

       power chord นั้น เป็นเป็นคอร์ดที่ให้เสียงหนักแน่นมีพลัง การจับ power chord นั้นจะคล้ายกับการจับคอร์ดทาบมากแต่จะจับน้อยกว่า โดย Power chord นั้นจะจับอยู่ที่ สาย 3 4 5 6
      การจับ Power Chord นั้นจับได้สองแบบคือการจับแบบโน๊ตคู่ห้า และ แบบทั้งคู่ห้าและคู่แปด การจับแบบหลังนี้(คู่5และคู่8)จะให้เสียงที่ครบกว่าออกเสียงกลางมากขึ้น ส่วนการนำไปใช้นั้นว่าควรจะจับแบบใหนก็ต้องดูเพลงที่เล่นว่าเป็นแบบใด Power Chord ที่เล่นในเพลงนั้นเล่นเป็นกีต้าร์หลักหรือเล่นเป็นRhythmให้จังหวะเป็นแบ็ค กราว์ด ถ้าเล่นเป็น Rhythm ก็ควรจะจับแบบคู่5มากกว่าเพราะจะไม่ออกเสียงกลางมากไม่ทำให้ไปกลบเสียงของกี ต้าร์หลัก แต่ถ้าเล่น Power Chord เป็นกีต้าร์หลักก็ควรจะจับแบบที่สอง(แบบคู่5และคู่8)เพราะเสียงจะออกไปทาง เสียงกลางชัดเจนมากขึ้นและเสียงจะพุ่งกว่าการจับแบบแรกฟังแล้ว เข้าถึงอารมณ์ของเพลงมากกว่า
 การเปลี่ยนคอร์ดนั้นสามารถเลื่อนฟอร์มการจับขึ้นลงได้เหมื่อนกับคอร์ด ทาบ ตัวอย่างเช่น จับคอร์ด F อยู่ ถ้าเลื่อนเข้ามาหาตัว 1 ช่องก็จะเป็นคอร์ด F#, 2 ช่องก็จะเป็นคอร์ด G       การจับ Power Chord บางคอร์ดที่ต้อง Muted เสียงที่สาย 6 จะใช้นิ้วกลางเตะไว้ที่สายเพื่อไม่ให้เกิดเสียงที่สายนั้น ตัวอย่างการจับคอร์ด C Power Chord ดังรูปด้านบน

pewer cord เบสิก

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

อุปสรรคในการเล่นกีต้าร์

อุปสรรคในการเล่นกีต้าร์โปร่ง คือ ข้อควรระวังและอันตรายที่อาจมองข้าม
ข้อสำคัญที่สุดคือ ระวังอย่าประมาท บางส่วนของกีตาร์ก็อาจเป็นภัยแก่คนเล่นและผู้อยู่ใกล้เคียงได้
อุบัติเหตุอันอาจเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เนื่องจาก
1. หัวของกีตาร์บางยี่ห้อมีส่วนแหลมคม
2. สายขาด สะบัดใส่ดวงตาหรือผิวหนัง
3. ปลายสายทั้งหกสายที่อยู่บริเวณหัวของกีตาร์ตัดไม่สั้นพอ ซึ่งมีอันตรายมาก
เด็กเล็กๆเล่นอยู่ใกล้ๆ ลองนึกภาพดู หรือเล่นๆอยู่หันหัวกีตาร์ไปมา ไม่เก็บปลายสายให้ดีอาจมีงานเข้าเศร้าใจได้

พยายามจะช่วยนึกนะครับ!!
ข้อควรระวัง :ถ้าคนไทยทั่วไป อาจจะต้องเลือกทรงกีต้าร์ ที่เหมาะกับขนาดลำตัว อุ้งมือและช่วงยาวของแขน เพราะถ้าหากต้องนั่งเล่นกีต้าร์ขนาดที่ไม่เหมาะสมนานๆ จะเกิดอาการปวดไหล่สะสมได้ แต่หุ่นนายแบบอย่างน้า Arnoldหายห่วง (แต่หุ่นนายแบบเช่นนี้ อาจเป็นอุปสรรคกับหลังเต่า) แต่ถ้าสามารถสะพายเล่นได้ ก็จะลดปัญหาไปได้โข แต่อาจจะเกิดปัญหาเส้นเลือดขอดที่ขาแทน หากต้องยืนเกิน 3 ชม.ติดต่อกันทุกวัน เพราะเห่อกีต้าร์ใหม่ๆ

งด : งดเว้นความสงสารกีต้าร์ที่ไม่ได้เล่น นานๆ ด้วยการผ่อนสายจนหย่อน เพราะมันอาจจะส่งผลต่ออาการคอไม่ตรงได้ และ งดความสงสารกีต้าร์ใหม่ๆสวยๆด้วยการเก็บไว้ในกล่องเป็นปีๆ เพราะกลัวมันเป็นรอย หมองคล้ำ เอามันออกมาแหกปากตะเบงเสียงบ้างเพื่อคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น และให้มันทำงานคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไป แต่มืออัดคลิบอย่างน้า Arnold ที่มีผลงานเล่นกีต้าร์เป็นประจำตามงานรอบกองไฟ ก็หายห่วง

ใส่ใจ:ที่จะทำความสะอาดกีต้าร์รายวันทุกครั้งก่อนเก็บลงกล่อง เพราะคราบความมันส์ ต่างที่ติดลงกล่องไปด้วย คงไม่ส่งผลดีต่อกีต้าร์แน่ๆ และหากได้โอกาสเปลี่ยนสาย ก็ถือโอกาสทำความสะอาดใหย่ซักครั้ง โดยการเช็ดลำตัวที่เคลือบแลคเกอร์ให้ทั่วด้วยน้ำยาที่เหมาะสม ส่วนชิ้นไม้ที่แห้งๆด้านๆเช่น Finger Board ก็ชะโลมและเช็ดด้วย Lemond Oil ซักครั้ัง ไป แต่คนรักกีต้าร์อย่างน้า Arnold ที่เห็นกีต้าร์เงาแว๊บเป็นประจำทุกคลิป ก็หายห่วง

อุปสรรคในการเล่นกีตาร์โปร่งของผมคือ
1. ตีคอร์ดร้องเพลงเสียงดังไม่ได้ เพราะจะรบกวนข้างห้อง
แต่ตอนดึก..มันอยู่กับแฟนสองคนเสียงดัง เราก็ไม่เคยบ่น แอบฟังบ่อยๆด้วย Cool

2. พอมือจับกีตาร์..เพลงประมาณ 30-40 เพลง ก็พรั่งพรูออกมาจากสมองอันชาญฉลาด
ไม่รู้จะเล่นเพลงไหนดี เลยวางกีตาร์ไว้ที่เดิมดีกว่า

3. นึกถึงแต่กีตาร์ของคนอื่น อยากเล่นกีตาร์ของคนอื่น
ของตัวเองมีตั้งหลายตัวก็ไม่เคยหยิบขึ้นมาเล่น ซื้อมาวางเป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับห้องอย่างเดียว Rolleyes